
เริ่มเนื่องจากอย ากช่วย แต่ในที่สุดค ว า ม ซ ว ย มาเยือน…!! บางคนเวลาตกที่นั่งลำบากมา ขอร้อง เราก็ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลสุดกำลัง แต่ว่าพอถึงเวลาพวกเราขอร้องจากเขา กลับทำครึ่งๆกลางๆหรือบ่ายเบี่ยงหายหน้าหายตา ทั้งๆที่เขาสามารถช่วยเหลือได้ แม้กระนั้นก็นี่แหละ ในสังคมที่ทุกคนคิดถึงแม้กระนั้นผลประโยชน์ตนเองก่อนเสมอ เมื่อมีผลประโยชน์ก็เข้ามา เมือหมดผลตอบแทนก็จากไป
บางทีพวกเราก็รู้ไม่ทัน “
คนหน้าไหว้หลังหลอก”ไม่ใช่เพราะว่ารู้ไม่ทัน แม้กระนั้นเป็นเพราะ “ความไว้ใจ”บางคราวดูคนผิด ไม่ใช่เพราะตาบอด แต่ว่าเนื่องจากว่า “ใจดีเหลือเกิน”บางเวลาช่วยคนผิด ไม่ใช่เพราะว่าโ ง่ แต่เนื่องจากว่า “เห็นแก่ความรู้สึก”
บางคราวจำยอม ไม่ใช่ด้วยเหตุว่าไร้เหตุผล แต่เพราะ “ไม่อย ากเอาชนะ”จิตใจคนย ากหยั่งโดยแท้ แม้กระนั้น..จะคงจะความดีเลิศ ไม่เสียใจเพราะยังเชื่อเสมอว่า… “ถ้าจิตใจคนงาม โลกก็สวย”
ยุคสมัยพิสูจน์ทุกอย่ าง รวมทั้ง ทุกอย่ างอธิบายน้ำใจคนน้ำไม่หยั่ง ไม่บางทีอาจรู้ตื้นลึก คนไม่คบ ไม่อาจทราบกันดีอยู่แล้วชั่ ว ในโลกนี้ มีเพียงแต่ระยะเวลาไม่คดโกงเวลาแค่นั้นจะพิสูจน์ทุกอย่ างว่า “คนใดกันแน่จริง คนไหนกันแน่ลวง”
มองคน อย่ าเพียงดูด้วยตา จะดูไม่ถูกได้ง่ายยิ่งไม่ควรเพียงฟังด้วยหู เพราะว่าล้วนคำเท็จมีเพียงแค่อาศัยเวลา สัมผัสด้วยความบริสุทธิ์ใจ ยุคสมัยนั้นดีพิสูจน์ใจคน เป็นแจ่มแจ้งพย านในนิสัยคน
คนใดเป็นคนจริง ผู้ใดกันเป็นคนหลอกลวง กาลเวลาจะบอกได้เองการเป็นคนดี ก็ต้องเป็นคนดีให้พอดีการทำสิ่งที่ดีงาม ก็จะต้องทำดีให้พอเหมาะพอดีการเป็นคนดีเกินความจำเป็น ใครๆก็จะไม่เกรงใจ และก็มักเอารัดเอาเปรียบเสมอ
การทำความดีเหลือเกิน ใครๆก็จะไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เราทำไปกลับมองเห็นพวกเราเป็นคนโ ง่ ที่ยอมเสียเปรียบคนอื่นตลอดเวลาการเป็นคน “ดีเกินไป” หรือ การ “ประพฤติดีเกินไป” นั้น ย่อมนำความเดือดร้อนมาสู่ตัวเองมิหนำซ้ำ ยังเป็นการส่งเสริมให้คนอื่นๆลำพองใจ และถูกใจ “เอารัดเอาเปรียบ” ต่อไปเรื่อย
คนดีต้อง “รักตนเอง” ก่อน จะประพฤติดีอย่ างไรก็อย่ าให้ตนเองตกที่นั่งลำบาก แล้วก็ควรจะ “ทำดีให้ถูกคน”ปฏิบัติดีกับคนที่รู้จักสำนึกในคุณความดีของคนอื่น ถ้าคนไหนกันไม่สำนึก ไม่จำความดีเลิศของผู้อื่นเราก็ควรเลิกประพฤติดีกับเขา เอาเวลาของพวกเราไปทำดีกับคนที่ดีจะดียิ่งกว่าเสียเวล่ำเวลาให้กับคนที่ชอบ “เอารัดเอาเปรียบ”
ไม่จริงใจ
ขอบคุณบทความจาก
https://freelydays.com/13432/